ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ดาวรุ่งแห่ง “ห้างขายยา”
ชื่อของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กลายเป็นนักเตะที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ทั้งกับแฟนบอลของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เอง ลามไปถึงแฟนบอลทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่อีกหลาย ๆ ทีมในยุโรปด้วย
ต้องยอมรับกันก่อนว่า รายการบุนเดสลีกาของฝั่งเยอรมัน ในฤดูกาลที่ 2023/24 คงไม่มีทีมไหน ที่สามารถสร้างความมหัศจรรย์ได้เท่ากับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อีกแล้ว
นายใหญ่ ชาบี อลอนโซ่ โค้ชหนุ่มไฟแรงชาวสเปน สามารถพาทีม “ห้างขายยา” คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ จากการแข่งขันเพียง 29 นัดในลีก และยังเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ในรอบ 120 ปีของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย
จะเรียกว่า เป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของบุนเดสลีกา ที่มีความยิ่งใหญ่อยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขาสามารถท้าชนทีมผู้ครองบัลลังก์แชมป์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค ได้
และแน่นอนว่า การความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของทีม “ห้างขายยา” ย่อมขาดยอดนักเตะในทีมไปไม่ได้ และในบทความนี้ พวกเราจะขอพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับ เด็กมหัศจรรย์ของ เลเวอร์คูเซ่น ผู้นี้
ประวัติของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
Florian Wirtz เกิดเมื่อ 3 พ.ค. ปี 2003 ปัจจุบันเขามีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น เกิดที่เมืองพูลไฮม์ ประเทศเยอรมัน มีความสูง 177 ซ.ม. เขามีชื่อเต็ม ๆ ว่า Florian Richard Wirtz
ความพิเศษของเขาคือ การที่เขามีเบื้องหลังมาจากครอบครัวที่อยู่ในแวดวงกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะพี่สาวของเขา ที่เคยเล่นให้กับ เลเวอร์คูเซ่น ชุดเยาวชน ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ แวเดอร์ เบรเมน
เขาเริ่มต้นเส้นทางสายฟุตบอล ด้วยการอยู่ในทีมเยาวชนของ ไวส์บราเวเยอร์ เป็นทีมระดับภูมิภาคของเยอรมัน และยังเป็นทีมที่พ่อของเขา ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสโมสรในตอนนั้นอีกด้วย
ด้วยฝีเท้าที่มีความโดดเด่นตั้งแต่เด็ก, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ อยู่กับ ไวส์บราเวเยอร์ ได้ไม่นาน ก็ได้ย้ายมาอยู่ในอะคาเดมีของ “แพะบ้า” โคโลญจน์ เมื่อกลางปี 2010 จากนั้น เขาก็ขยับขึ้นไปเล่นในทีมชุด U-17 ในช่วงกลางปี 2018 ตอนที่เจ้าตัวมีอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น
อีก 2 ปีต่อมา เวิร์ตซ์ ก็ย้ายไปอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในทีมชุด U-19 และในช่วงกลางปี 2020 เขาก็สามารถขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของ “ห้างขายยา” ได้เป็นที่เรียบร้อย
เวิร์ตซ์ ลงเล่นในฐานะนักเตะที่ได้รับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพเป็นเกมแรกคือ เล่นในรายการ บุนเดสลีกา เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ปี 2020 ในเกมไปเยือน แวเดอร์ เบรเมน
เกมนั้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของดาวรุ่งดวงใหม่ของ “ห้างขายยา”, เวิร์ตซ์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่นในลีก บุนเดสลีกา แทนที่ ไค ฮาแวตซ์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นเกมแรกในขณะที่มีอายุเพียง 17 ปี 16 วัน
เวิร์ตซ์ ทำประตูแรกของตนเอง ในเครื่องแบบของ เลเวอร์คูเซ่น ในเกมที่พ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ไป 2-4 ประตู และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ทำประตูใน บุนเดสลีกา ได้ โดยมีอายุเพียง 17 ปี กับอีก 34 วัน
และในวันที่ 22 ต.ค. 2022 เขาทำประตูแรกในฟุตบอลถ้วยยุโรป ในเกมที่เอาชนะ นีซ ไป 6-2 ประตู ในศึก ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2020-21 และในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งตอนนั้น เขาก็ได้ต่อสัญญาใหม่กับ “ห้างขายยา” ไปจนถึงปี 2023
ในวันที่ 19 ม.ค. 2021 เขากลายเป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้ เลเวอร์คูเซ่น เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 2-1 ประตู และทำประตูที่ 5 ใน บุนเดสลีกา ในเกมที่เอาชนะ “ม้าขาว” สตุ๊ตการ์ท เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ในปีเดียวกัน
ด้วยผลงานโดดเด่นเช่นนั้น ทำให้บอร์ดบริหารสโมสร เลเวอร์คูเซ่น ตัดสินใจอนุมัติขยายสัญญาของ เวิร์ตซ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2021 โดยมีสัญญายาวไปจนกระทั่งปี 2026 จนเขาได้รับสมญานามว่า “พ่อมดแห่งห้างขายยา”
ผจญความโชคร้ายนานกว่า 10 เดือน
มิดฟิลด์ดาวรุ่งกลับโชคร้าย เจ้าตัวรับบาดเจ็บเมื่อ 13 มี.ค. ปี 2022 ในเกมที่ เลเวอร์คูเซ่น พ่ายคารังให้กับ โคโลญจน์ คารังไป 0-1 ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรงมาก ๆ เป็นอาการเอ็นไขว้หน้าเข่าด้านซ้ายฉีกขาด
อาการบาดเจ็บครั้งนั้น ส่งผลให้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ต้องร้างสนามนานกว่า 10 เดือน และด้วยอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับ หลายคนมองว่า เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนเดิมแล้ว เมื่อได้กลับมาลงสนาม ในขณะที่อีกหลายคนก็เชื่อว่า เขาจะกลับมาลงสนามได้ เพราะอายุยังน้อย
หลังผ่านช่วงการพักฟื้นที่ยาวนานกว่า 10 เดือน ชีวิตของ เวิร์ตซ์ ก็พบกับฟ้าหลังฝนอันสวยงาม เขากลับมาทำหน้าที่ในสนามได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นคีย์แมนคนสำคัญ ที่ช่วยพาทีม เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์บุนเดสลีกามาครอบครองได้
ที่พีคที่สุดคือ นัดที่ เลเวอร์คูเซ่น เปิดบ้านถล่ม แวเดอร์ เบรเมน ในฤดูกาล 2023/24 พร้อมกับการันตีการเป็นแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกของสโมสร, เวิร์ตซ์ ก็ทำเอาแฟนบอลทีม “ห้างขายยา” คลั่งสุดขีด ด้วยการยิงแฮตทริกใส่ เบรเมน ในเกมนั้น
นี่คือนักเตะดาวรุ่ง ผู้เป็นเพชรเม็ดงามประดับบุนเดสลีกาโดยแท้จริง และในอนาคต ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ อาจจะกลายเป็นนักเตะที่คว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งยุโรป หรือที่พวกเราเรียกว่า บัลลงดอร์ ไปครอบครองก็ได้