เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค คือผู้สวมปลอกแขนกัปตันของ Liverpool คนปัจจุบัน ด้วยภาวะความเป็นผู้นำของเขา การรับไม้ต่อจากกัปตันคนเก่า ไม่ได้เป็นสิ่งที่คลางแคลงใจเหล่า เดอะ ค็อป เลย แม้แต่นิดเดียว
เพราะเมื่อ Jordan Henderson อำลา Liverpool ไปเล่นในฟุตบอลลีก ของซาอุดิอาระเบียกับทีม Al Ettifaq ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้สโมสร ลิเวอร์พูล ต้องมองหา กัปตันทีมคนใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องขบคิดกันให้นานเลย
ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกความเป็นผู้นำ และบทบาทภายในทีม คงไม่มีใครโดดเด่นเกิน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังชาวดัตช์ผู้นี้อย่างแน่นอน
Virgil van Dijk เกิดเมื่อ 8 ก.ค. 1991 ปัจจุบันอายุ 32 ปี เขาเกิดที่เมือง Breda ได้เริ่มต้นเส้นทางสายฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ Willem II จากนั้น ก็ย้ายไปอยู่กับ Groningen
ในช่วงกลางปี 2010 จนได้ขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ อีกสองปีต่อมา จึงย้ายไปร่วมทีม Celtic ทีมดังของสกอตแลนด์ โดยมีค่าตัวเพียง 2.6 ล้านปอนด์
เขาเล่นให้ทีม “ม้าลายเขียวขาว” รวม 115 นัด ทำได้ 15 ประตู 7 แอสซิสต์ และช่วยให้ Celtic คว้าแชมป์ลีกสกอต 2 สมัย และแชมป์สกอตติช ลีก คัพ อีก 1 สมัย
จนถึงเดือน ก.ย. ปี 2015 ปราการหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ย้ายมาร่วมทีม Southampton โดยมีค่าตัวอยู่ที่ 13 ล้านและกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในเวลาอันรวดเร็ว และในฤดูกาล 2016-17 เขายังได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีม “นักบุญ” แทนที่ Jose Fonte ที่ย้ายออกจากทีมไป
Van Dijk ลงเล่นให้ Southampton ไปทั้งหมด 80 นัด ทำได้ 7 ประตู ความมุ่งมั่นในการเล่น ความแกร่งในเกมรับ ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Liverpool มาคว้าตัวไปร่วมทีม เมื่อต้นปี 2018 โดยมีค่าตัวถึง 75 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นกองหลัง ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น
ซึ่งตอนที่ ลิเวอร์พูล มีข่าวเชื่อมโยงว่า ต้องการตัว ฟาน ไดจ์ค มาร่วมทีม ครั้งนั้น ถือเป็นข่าวที่ร้อนแรงอย่างมาก เพราะทีม “นักบุญ” ต้นสังกัดเก่า ออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจ ที่ Jurgen Klopp พยายามติดต่อกับนักเตะโดยตรง โดยที่ต้นสังกัดเก่า มาทราบเรื่องเอาในภายหลัง
และในค่าสินสอดที่ ลิเวอร์พูล จ่ายให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปทั้งหมด 75 ล้านปอนด์นั้น เป็นค่าตัวของ ฟาน ไดจ์ค จริง ๆ 60 ล้านปอนด์
ส่วนอีก 15 ล้านปอนด์ ถือเป็นคำขอโทษ ที่ได้ล้ำเส้น ไม่เข้าตามตรอก ออกตามประตู แอบไปดีลกับนักเตะ เป็นการส่วนตัว
ถึงจะค่าตัวแพง แต่ปราการหลังชาวดัตช์ก็โชว์ผลงานให้ทุกคนได้เห็นว่า ฟาน ไดจ์ค เล่นได้คุ้มค่าตัวอย่างมาก เป็นกองหลังที่แข็งแกร่ง เหนียวแน่น ประกบตัวเก่ง ใครก็ผ่านได้ยาก
และช่วยให้ “หงส์แดง” คว้าแชมป์รายการสำคัญ มาครองอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ Premier League ฤดูกาล 2019-2020 แชมป์ Uefa Champions League 2018-19 แชมป์ FA Cup และแชมป์ League Cup ฤดูกาลที่ 2021-2022
Van Dijk ยังได้รับเลือก ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ จากการคัดเลือก ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ ในฤดูกาลที่ 2018-19 อีกด้วย
นับจนถึงปัจจุบัน กองหลังชาวดัตช์ลงเล่นให้ “หงส์แดง” ในทุกรายการรวม 223 นัด ทำได้ 19 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ และเป็นกัปตันทีมคนใหม่ ที่ได้รับการยอมรับจากทุก ๆ ฝ่าย
van Dijk ยังเป็นตัวหลักของทีม “กังหันสีส้ม” มีสถิติลงเล่นทั้งหมด 57 นัด ยิง 6 ประตู โดยลงเล่นนัดแรก เมื่อครั้งที่ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เจอกับ ทีมชาติคาซัคสถาน ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2006 รอบคัดเลือก เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2015 และในเดือน มี.ค. 2018 ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีม “กังหันสีส้ม” มาจนถึงทุกวันนี้
ประตูแรก ที่เขาทำได้ให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2018 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่เอาชนะโปรตุเกส ไปได้ถึง 3-0 ประตู