เดวิด มอยส์ ชื่อที่แฟนบอลหลาย ๆ คนได้ยินแล้ว อาจจะรู้สึกขำ เพราะผลงานในอดีตของเขา กับทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง
และถ้านับบทบาทการเป็นผู้จัดการทีม ของกุนซือหลาย ๆ คน ก็อาจจะบอกได้ว่า David Moyes คือหนึ่งในโค้ช ที่ต้องเผชิญกับคำดูถูก คำเหยียดหยามมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจากที่เขา ต้องรับหน้าที่ต่อจากบรมกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ถ้าพูดถึงนักเตะชาวสกอตแลนด์ ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ ก็คงไม่มีใครโดดเด่นเกินหน้า เคนนี่ ดัลกลิช เพราะในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่ ก็เคยพา ลิเวอร์พูล กลายเป็นสุดยอดทีมของเกาะอังกฤษ
พอ ดัลกลิช เลิกเล่น ก็ยังสามารถพาทีม “หงส์แดง” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ ในฐานะของการเป็นกุนซือ ก่อนจะย้ายไปคุมทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก็สามารถล้ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลที่ 1994-95
และผู้ที่เป็น “สกอตแมน” อีกคน ที่ได้การยอมรับว่าเป็นของจริงเหมือนกัน ก็คือ David Moyes ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของ West Ham
เดวิด มอยส์ เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน ปี 1963, ปัจจุบันมีอายุ 60 ปี เกิดที่เมือง กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์, ในสมัยที่เขายังค้าแข้งอยู่ เขาเล่นในตำแหน่งปราการหลัง
David Moyes เริ่มต้นเข้ามาอยู่ในทีม กลาสโกว์ เซลติด ในชุด U-20 เมื่อกลางปี 1980 และได้ก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ ในอีก 2 ปีต่อมา โดยได้ลงเล่นไปทั้งหมด 24 นัด แต่ทำประตูไม่ได้เลย ด้วยตำแหน่งที่เขาเล่น
วันที่ 28 ตุลาคม ปี 1983, ทีม “ม้าลายเขียว-ขาว” ปล่อยตัวเขาให้กับ แคมบริดจ์ ยูไนเต็ด และหลังจากนั้น เขาได็ย้ายไปเล่นให้อีกหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น บริสตอล ซิตี้, ชรูวส์บิวรี่ ทาวน์, ดันเฟิร์มลิน และ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ก่อนที่จะตัดสินใจแขวนสตั๊ด เมื่อปี 1998
ตลอดระยะเวลาที่ Moyes ยังค้าแข้งอยู่ เขาลงเล่นให้กับทีม ดันเฟิร์มลิน มากที่สุดแล้ว โดยลงเล่นในช่วงระหว่างปี 1990-92 รวมทั้งหมด 105 นัด ทำประตูไปได้ทั้งหมด 13 ประตู
หลังจากแขวนสตั๊ดแล้ว, เดวิด มอยส์ ก็ได้ก้าวไปสู่เส้นทางเป็นผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัว และเริ่มรับงานคุมทีม เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 1998, โดยเข้าไปทำหน้าที่แทน แกรี่ ปีเตอร์ส เพราะสถานการณ์ของทีมย่ำแย่อย่างหนัก ต้องดิ้นรนอยู่ในดิวิชั่น 2 และอาจจะตกชั้นด้วยซ้ำ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ David Moyes เคยเข้ารบการอบรมโค้ช มาตั้งแต่ที่เขาอายุได้ 22 ปี บวกกับการที่เขาชอบอ่านตำราฟุตบอลมากมายเป็นทุนเดิม จึงสามารถสร้างผลงานได้เกินความคาดหมาย ช่วยให้ เปรสตัน หนีตกชั้นในฤดูกาล 1997-98 ได้สำเร็จ และยังสามารถเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ ดิวิชั่น 2 ในฤดูกาลต่อมา
ในฤดูกาลหลังจากนั้น, มอยส์ สามารถพา เปรสตัน ทะยานคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ของเกาะอังกฤษได้สำเร็จ จนในปี 2001 เขาก็ได้รับการต่อสัญญาใหม่ เป็นสัญญายาวระยะเวลา 5 ปี
จนถึงวันที่ 14 มีนาคม ปี 2002, กุนซือชาวสกอตแลนด์ ได้อำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม เปรสตัน และย้ายไปคุมทีม เอฟเวอร์ตัน เพื่อสู้ศึกในรายการพรีเมียร์ลีก โดยตลอดระยะเวลาที่เขาคุม เปรสตัน เขามีสถิติคุมทีมทั้งหมด 234 นัด ชนะ 113 เสมอ 58 แพ้ 63
สไตล์การทำทีมของ Moyes เข้ากับ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ได้เป็นอย่างดี เป็นบอลสไตล์บู๊ เดินบด เล่นเกมหนัก แม้ว่า เอฟเวอร์ตัน จะไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดมาครองได้เลย แต่ก็รักษาตำแหน่งได้อย่างมั่นคง โดยที่เขามีผลงานคุมทีมในทุกรายการ 518 นัด
David Moyes ตัดสินใจอำลา เอฟเวอร์ตัน เพื่อไปรับหน้าที่ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” โดย เดวิด มอยส์ เซ็นสัญญากับ “ผีแดง” เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2013 เซ็นสัญญากัน 6 ปี แต่ผลงานของทีมกลับไม่น่าประทับใจ และต้องออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 เมษายน ปี 2014 โดยมีผลงานคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 51 นัด
หลังจากนั้น กุนซือชาวสกอตแลนด์ ก็ไปรับงานคุมทีม เรอัล โซเซียดัด และ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะย้ายมาเป็นผู้จัดการทีมของ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 2017 และคุมทีมจนถึงกลางปี 2018 จึงออกจากตำแหน่งไป เพราะหมดสัญญา
แต่โชคชะตาระหว่าง เดวิด มอยส์ กับสโมสร เวสต์ แฮม ก็ได้มาบรรจบกันอีกครั้งเมื่อปี 2019 โดยเป็นการมาทำหน้าที่ต่อจาก มานูเอล เปเลกรินี่ ที่หมดสัญญากับทีม “ขุนค้อน” หลังจากคุมทีมมาได้ 1 ปี